ZEEKR แบรนด์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี จัดกิจกรรม ‘ZEEKR X Driving Experience’ ณ IMPACT Speed Park เมืองทองธานี ให้สื่อมวลชนและลูกค้าได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ในสถานการณ์จำลองเสมือนจริง เพื่อสัมผัสถึงประสิทธิภาพการขับขี่อันเหนือชั้นของ ZEEKR X
ZEEKR Xรถไฟฟ้าพรีเมียม-ลักชูรีที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีแห่งยุคอนาคตและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมการขับขี่สุดไฮเทค พร้อมสมรรถนะอันทรงพลังจากระบบมอเตอร์คู่ 315kW (428 hp) แรงบิดสูงสุด 543 N•m อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.8 วินาที ยกระดับความพรีเมียมเสริมความหรูหราด้วยกระจกมองข้างแบบไร้กรอบ, ดีไซน์ที่จับประตูแบบ Hidden Capacitive Sensing Door Handles, ช่องชาร์จไฟที่เรียบสนิทไปกับตัวรถ, ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEEKR และไฟท้ายแบบ LED พร้อมสัญลักษณ์ ZEEKR แบบสามมิติ อีกทั้งยังครบครันด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูงด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงจากกล้องความละเอียดสูง 5 ตัว เรดาร์ความยาวคลื่น 5 มิลลิเมตร และเรดาร์อัลตราโซนิค 12 ตัว รวมถึงระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ, ระบบรักษาตำแหน่งในเลน, ระบบแจ้งเตือนวัตถุในจุดบอด, ระบบแสดงภาพรอบตัวรถ และอีกหนึ่งในจุดเด่นก็คือ โครงสร้างแบบ SEA Platform ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEEKR ที่จะช่วยทั้งในด้านการขับขี่ สมรรถนะ การทรงตัว รวมถึงการลดเสียงรบกวนที่อาจเกิดขึ้นตามจุดต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีเยี่ยมให้กับผู้ขับขี่
ZEEKR X คอมแพคเอสยูวีสุดหรูสำหรับคนเมือง โดดเด่นด้วยดีไซน์สวยงามสไตล์สแกนดิเนเวียและเทคโนโลยีล้ำหน้า มีให้เลือก 5 สีได้แก่ สีขาว Crystal White, สีครีม Palace Beige, สีเขียว Pine Green, สีเทาเข้ม Grid Grey และสีเทาพิเศษ Mist Grey โดยมี 2 รุ่นหลักคือ รุ่น Standard มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลัง 272 แรงม้า ระยะทาง 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ราคา 1,199,000 บาท และรุ่น Flagship ที่เน้นสมรรถนะด้วยมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลัง 428 แรงม้า ระยะทาง 470 กิโลเมตรต่อการชาร์จ พร้อมอุปกรณ์พิเศษ เช่น ล้อ Forged Wheel 20 นิ้ว, AR HUD, ไฟ Ambient Light และระบบเสียง YAMAHA 13 ตำแหน่ง ราคา 1,349,000 บาท
เป่า จ้วงเฟย (อเล็กซ์) ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซีเคอาร์ อินเทลลิเจนท์ เทคโนโลยี กล่าวว่า “ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกคนจะได้สัมผัสกับประสิทธิภาพของ ZEEKR X อย่างเต็มที่ทั้งเรื่องสมรรถนะ ในการขับขี่ เทคโนโลยีและความปลอดภัยที่เหนือกว่า เรามั่นใจว่า ZEEKR X จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับ ผู้ขับขี่ได้ในทุกๆ ด้าน โดยในครั้งนี้เราได้นำ ZEEKR X ทั้งสองรุ่น ทั้ง Standard และ Flagship ที่เริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ มากกว่า 200 คัน นอกจากนี้ เรายังมี ZEEKR House จะพร้อมให้บริการภายในเดือนกันยายนนี้เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์และสัมผัสกับประสบการณ์ที่ครบครันจากเรา”
ZEEKR X Driving Experience เปิดให้สื่อมวลชนและลูกค้า ได้ทดสอบสมรรถนะของ ZEEKR X พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญในสถานการณ์จำลอง ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง การทรงตัวของรถ การควบคุมรถบนพื้นผิวเปียก เพื่อให้ผู้ใช้ได้ใช้ ZEEKR X ได้เต็มสมรรถนะ ตลอดจนขับขี่ได้อย่างมั่นใจไร้กังวลตลอดเส้นทางการใช้งาน ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
ZEEKR X รุ่น Flagship ท้อปสุด ช่วงแรกในสนามได้ทดลองอัตราเร่งซึ่งสามารถสร้างความตื่นเต้นได้อย่างมาก อัตราเร่งระดับ 0-100 กม./ชม.ใช้เวลา 3.8 วินาที สามารถกดตัวผู้ขับให้จมลงไปในที่นั่งได้อย่างสบายๆ ตัวรถก็ “นิ่ง” และมั่นคงด้วยการขับเคลื่อนแบบ AWD ทำให้การส่งกำลังสู่พื้นได้อย่างอย่างเต็มที่ เข้าสู่โค้งกว้างก็ยังเกาะพื้นแทร็กได้อย่างมั่นคง ต่อด้วยการบังคับควบคุมแบบซิกแซก ก็สามารถทำได้ง่ายและเชื่องมือ แต่ต้องผ่อนคันเร่งมากหน่อยเพราะตัวรถมีความแรงและเร็วกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปอยู่พอสมควร ส่วนการยกคันเร่งตัวรถยังมีการหน่วงหรือระบบการรีเจนไฟกลับไปใช้งานได้ ซึ่งยังสามารถตั้งให้มากหรือน้อยตามโหมดการขับขี่ได้อย่างอิสระ
ต่อด้วยการขับผ่านพื้นผิดแทร็กที่เปียกน้ำก็ยังสามารถผ่านไปได้อย่างมั่นใจ ตัวรถไม่มีเสียอาการหรือลื่นไถลให้รู้สึกเลยถึงแม้ผู้ขับจะตั้งใจก็ตาม ทั้งระบบการทรงตัวรวมถึงระบบขับเคลื่อนสามารถทำงานได้อย่างลงตัว ช่วงเลนเชนจ์ก็ยังสามารถบังคับควบคุมรถได้ง่าย อาการเหวี่ยงหรือการโคลงของตัวรถมีให้รู้สึกบ้างแต่ก็ถือว่า “ดี” กว่าที่คาดไว้
จบช่วงทดลองขับรุ่น ZEEKR X รุ่น Flagship ก็ต่อด้วยรุ่นZEEKR X รุ่น Standard ขับเคลื่อนล้อหลังกันต่อ ในส่วนของอัตราเร่งจะรู้สึกไม่จัดจ้านเท่ากับรุ่นท้อป แต่ก็ถือว่าไม่ธรรมดา อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 5.6 วินาที บนท้องถนนก็หาตัวจับค่อนข้างยากแล้ว แต่ข้อดีคือสามารถวิ่งได้ระยะทาง 540 กม. มากกว่านั่นเอง การเข้าโค้งทำได้ดีมีอาการ “ตูดออก” เล็กน้อยแต่มีตัวช่วยการขับขี่เยอะเลยยังสามารถบังคับควบคุมได้อย่างสบาย สลาลอม ซิกแซกยังสามารถบังคับควบคุมได้เชื่องมือ มีอาการท้ายออกเล็กๆเท่านั้น ช่วงแทร็กเปียกน้ำผ่านไปได้อย่างปกติไม่มีอาการออกมาให้ตกใจเพราะตัวช่วยเพื่อความปลอดภัยของตัวรถทำงานได้อย่างขันแข็งและแม่นยำ จนผู้ขับลองบังคับรถให้ออกอาการเป็นพิเศษตัว ZEEKR X ก็ยังแทบไม่เสียการทรงตัวเลย เลนเชนจ์ก็ยังสามารถบังคับควบคุมรถผ่านไปได้อย่างมั่นใจ สุดท้ายในแทร็กอลงเบรกกระทันหันตัวรถก็ยัง “หยุด” ได้อย่างนุ่มนวลและมั่นใจดี
ช่วงสุดท้ายทดลองระบบช่วยการจอดรถอัตโนมัติ ซึ่ง ZEEKR X สามารถทำได้อย่างแม่นยำ การเลือกใช่งานก็ง่ายไม่ซับซ้อน ควบคุมและสั่งงานได้ที่จอใหญ่ได้เลย การถอยจอดเข้าซองเลยง่ายและสะดวกมาก
สรุป ZEEKR X คันนี้ดีไซน์มาในสไตล์ยุโรปที่หรูหราและดูดี สมรรถนะยอดเยี่ยมกับราคาค่าตัวที่สัมผัสได้ จึงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกรุ่นหนึ่งในท้องตลาดที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว