Grande Premio Tissot de Portugal ปี 2024 ถือเป็นไฟส่องสว่างอันน่าทึ่งในการคว้าแชมป์ให้กับ Jorge Martin (Prima Pramac Racing) เนื่องจากนักแข่งหมายเลข #89 คว้าชัยชนะและแชมป์ Championship ก็ขึ้นนำด้วย แต่นี่คือกีฬาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก และไม่มีคำอธิบายประโยคเดียวที่จะครอบคลุม 25 รอบของ MotoGP™ บนรถไฟเหาะ Martin คว้าชัย และ Maverick Viñales (Aprilia Racing) ก็ไล่ตามเขาไปจนชิดจนต้องพบกับปัญหาทางเทคนิคที่น่าสะเทือนใจในรอบสุดท้าย Enea Bastianini (ทีม Ducati Lenovo) เข้ามาคว้าอันดับสองและขึ้นโพเดียมแรกของปี Pedro Acosta (Red Bull GASGAS Tech 3) สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้เข้าเส้นชัยบนโพเดี้ยมที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์คลาสพรีเมียร์ด้วยการพุ่งทะยานอันเหลือเชื่อผ่านแชมเปี้ยนทั้งในอดีตและปัจจุบัน
การแข่งขันชิงแชมป์โลก 11 รายการดำเนินไปแบบตัวต่อตัว และทุกคนก็หลุดเข้าไปในพื้นที่วิ่งหนี นักแข่งโอเค แต่หนึ่งในเหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดในช่วงหนึ่ง Francesco Bagnaia (ทีม Ducati Lenovo) และ Marc Marquez (Gresini Racing MotoGP™) ชนกันเพียงไม่กี่รอบเท่านั้น FIM MotoGP™ Stewards พิจารณาอย่างเป็นทางการว่าเป็นเหตุการณ์การแข่งรถ แต่ดูเหมือนว่าช่วงเวลานั้นจะต้องถูกซักถามเป็นเวลาหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือหลายปีต่อจากนี้
มาร์ตินขึ้นนำในสนามในการเข้าสู่เทิร์นหนึ่ง ซึ่งเป็นการออกสตาร์ทโปรตุเกส GP ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้ไล่ Martin ออกจากประตูคือ Maverick Vinales ผู้ชนะการแข่งขัน Sprint บนรถ Aprilia Racing Bagnaia ต่อสู้กับ Marc Marquez ในช่วงต้นเช่นกัน โดยนักแข่งทั้งสองคนต่างต่อสู้กันเพียงไม่กี่นิ้วเพื่อชิงแอสฟัลต์ชิ้นเดียวกันในรอบเปิด Bagnaia (ในอันดับสี่) รั้งแชมป์โลก 8 สมัยไว้ได้ในขณะที่พวกเขาเข้าสู่การแข่งขันครั้งสำคัญ
Alex Marquez (Gresini Racing MotoGP™) เสียแนวหน้าเมื่อโค้งที่ 5 และจบโอกาสที่จะได้ผลการแข่งขันที่ดีในรอบที่ 2 ของการแข่งขัน Raul Fernandez (Trackhouse Racing) ชนบนรอบที่ 5 ล้มเมื่อถึงโค้งที่แปด
ในขณะเดียวกัน Acosta ก็เริ่มลงสนามในช่วงแรกของการแข่งขัน โดยต้องต่อสู้กับทั้งรถแข่ง Red Bull KTM Factory Racing ของ Jack Miller และ Brad Binder มิลเลอร์วิ่งอย่างกว้างขวางเพื่อเข้าสู่เทิร์นหนึ่ง ทิ้งสองตำแหน่งและปล่อยให้ Binder และ Acosta ต่อสู้กัน
Acosta อยู่ในข้อหาโดยผ่าน Binder หลังจากการซ้อมเบรกที่น่าประทับใจและขโมยตำแหน่งจากแอฟริกาใต้ ในไม่ช้า มือใหม่ก็มุ่งเป้าไปที่ Marc Marquez โดยกำลังเข้าสู่ห้าอันดับแรกในปีแรกของเขาในรุ่นเดียวกัน Acosta จับ Bagnaia ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้คอกม้าตื่นตาตื่นใจด้วยความมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การแข่งขันดำเนินไป Acosta ก็จะวิ่งอย่างกว้างขวางเพื่อเข้าสู่โค้งหนึ่ง และถูกกระแสน้ำของ Bagnaia ดูดเข้ามุม อย่างไรก็ตาม ในแนวหน้า ทั้งสามคนยังคงวิ่งอย่างร้อนแรงโดยมี Martin เป็นผู้นำการแข่งขันครึ่งวินาที ขณะที่ Bastianini รอเวลาที่เหมาะสมเพื่อกระโจนจากตำแหน่งที่สาม
เมื่อผ่านไปสี่รอบ Gresini ยังคงเป็นเงามืด แต่ Bagnaia ได้พื้นที่หายใจเล็กน้อยในรอบถัดไป เพียงพอแล้วเมื่อ #93 โจมตี มันเป็นการพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง และเกือบจะได้ผลแล้ว แต่ Bagnaia คือ Bagnaia และแชมป์เปี้ยนผู้ครองราชย์ได้คาดการณ์ไว้ และยึดแนวในกลับคืนมาอย่างแน่นหนาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้... และนั่นก็เป็นเช่นนั้น ทั้งสองแยกจากกันในพื้นที่เดียวกัน และสองเป็นหนึ่งเดียวไม่พอดี ติดต่อได้ทั้งคู่จึงหลุดออกไป
ในขณะเดียวกันนักบิดก็แซงขึ้นมาเป็นอันดับที่สี่เหรอ? อคอสต้า. แต่เรื่องราวกลับพลิกผันอีกครั้งสำหรับนักแข่งอีกรายที่อยู่ข้างหน้า โดยที่อันดับสี่กำลังจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ระดับพรีเมียร์
เมื่อข้ามเส้นในรอบสุดท้าย มาร์ตินมีเงินในมือเพียงพอที่จะเดิมพัน แต่Viñales ก็ชะลอความเร็วลงทันที แขวนคอจักรยานแล้วมองลงมาในขณะที่เขามุ่งหน้าวิ่งออกไป ปัญหาทางเทคนิคในช่วงท้ายทำให้การแข่งขัน GP ของผู้ชนะ Sprint จบลงอย่างน่าเสียใจ ในขณะที่เขาล้มลงโดยไม่ได้กล่าวไว้อีกต่อไป และนั่นทำให้ Acosta ขึ้นแท่นหลังจากที่เขาพุ่งทะยานเพื่อความรุ่งโรจน์
เมื่อถึงเส้นชัย มาร์ตินสามารถข้ามเส้นเพื่อคว้าตำแหน่ง GP ของโปรตุเกสได้หลังจากการขี่ระดับมาสเตอร์คลาสจนชนะไป 0.882 Bastianini ข้ามเส้นมาเป็นอันดับสอง นำหน้า Acosta นักบิดหน้าใหม่ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นโพเดี้ยมในอันดับที่สาม กลายเป็นนักแข่งที่อายุน้อยที่สุดคนที่สามที่จบบนโพเดี้ยมในคลาสพรีเมียร์
Binder และ Miller นำ KTM ขึ้นสู่ตำแหน่งที่สี่และห้าในวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ผลิตชาวออสเตรีย Marco Bezzecchi (ทีมแข่ง Pertamina Enduro VR46) จบการแข่งขันในอันดับที่ 6 หลังจากทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งในวันอาทิตย์ให้กับนักแข่งชาวอิตาลี โดยจบการแข่งขันนำหน้า Fabio Quartararo นักบิดระดับท็อปของ Monster Energy Yamaha MotoGP™ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 7 Aleix Espargaro เป็นนักบิด Aprilia Racing เพียงคนเดียวที่เข้าเส้นชัยและเข้ารอบแปดอันดับแรก
Miguel Oliveira (Trackhouse Racing) จบอันดับที่ 9 ด้วยความยินดีของผู้ชมชาวโปรตุเกสบนอัฒจรรย์ Fabio Di Giannantonio จากทีม Pertamina Enduro VR46 Racing เข้ารอบ 10 อันดับแรกในขณะที่ทีมหันไปมองที่อเมริกา Augusto Fernandez (Red Bull GASGAS Tech3) จบอันดับที่ 11 นำหน้า Joan Mir และ Alex Rins ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งผู้ทำคะแนนได้แก่ ทาคาอากิ นากากามิ (IDEMITSU Honda LCR) และ Johann Zarco (คาสโทรล ฮอนด้า LCR)
ผลการแข่งขัน Grande Premio Tissot de Portugal
| Rider | Time / Gap |
|---|---|
|
|
41:18.138 |
|
|
+0.882 |
|
|
+5.362 |
|
|
+11.129 |
|
|
+16.437 |
|
|
+19.403 |
|
|
+20.130 |
|
|
+21.549 |
|
|
+23.929 |
|
|
+28.195 |
|
|
+28.244 |
|
|
+29.271 |
|
|
+31.334 |
|
|
+34.932 |
|
|
+38.267 |