มาสด้ามาแรงส่งท้ายปียอดขายเดือนพฤศจิกายนเติบโต 37%

มาสด้ามาแรงส่งท้ายปียอดขายเดือนพฤศจิกายนเติบโต 37%

         มาสด้าเปิดเผยยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายนเติบโตสูงถึง 37% และเติบโตเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ตอกย้ำความสำเร็จในการเปิดตัวแนะนำรถอเนกประสงค์ภายใต้ MAZDA FAMILY SUV โดยเฉพาะเสียงตอบรับจากการเปิดตัวแนะนำครอสโอเวอร์น้องเล็ก CX-3 รวมถึงกลยุทธ์ด้านการตลาด ที่ล้วนส่งเสริมให้ยอดขายรถยนต์ทุกรุ่นปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และเชื่อว่าเดือนธันวาคมนี้ยอดขายจะยังคงร้อนแรงเช่นที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าปีนี้จะสามารถทำยอดขายรวมสะสมได้สูงถึง 35,000 คัน


        พร้อมกันนี้มาสด้าขอเชิญชวนลูกค้าที่สนใจเข้าชมยนตรกรรมมาสด้าทุกรุ่นได้ที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป อิมแพ็ค เมืองทองธานี และรับโปรโมชั่นสุดคุ้มแห่งปี ทำไมต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงๆ ทำไมต้องเสียเงินซื้อประกันชั้นหนึ่งเอง และทำไมต้องจ่ายค่าบำรุงดูแลรักษารถยนต์เอง ในเมื่อมาสด้าจัดให้ทั้งหมด ดอกเบี้ย 0%* ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance* ฟรี Mazda Care Program 3 ปี* และขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร* จนถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ทุกโชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

        นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านถือว่าปรับตัวดีขึ้นมาก อันเนื่องมาจากมาตรการและแรงสนับสนุนของภาครัฐและเอกชน ทั้งการคลายล็อกดาวน์ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย การเร่งฉีดวัคซีน และโปรโมชั่นกระตุ้นการใช้จ่ายต่างๆ ล้วนส่งผลให้เศรษฐกิจกลับมาหมุนเวียนได้ดีขึ้น และส่งผลต่อเนื่องมายังอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเดินทางในยุคปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าภาพรวมตลาดในเดือนธันวาคมจะปรับตัวดีขึ้นอีกเช่นกัน พร้อมคาดว่าตัวเลขรวมของทั้งอุตสาหกรรมในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 750,000 คัน และมาสด้าจะมียอดสะสมทั้งปีที่ประมาณ 35,000 คัน

         สำหรับภาพรวมยอดขายรถยนต์มาสด้าในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยยอดขาย 3,308 คัน หรือเติบโตสูงถึง 37% จากเดือนตุลาคม ซึ่งแบ่งเป็นรถยนต์นั่งจำนวน 1,996 คัน เพิ่มขึ้น 33% รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวี จำนวน 1,224 คัน เพิ่มขึ้น 28% และรถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 จำนวน 118 คัน เพิ่มขึ้นถึง 64% โดยจากจำนวนกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็นรายรุ่น ได้แก่ มาสด้า2 จำนวน 1,853 คัน, มาสด้า3 จำนวน 113 คัน, มาสด้า CX-3 จำนวน 504 คัน, มาสด้า CX-30 จำนวน 485 คัน, มาสด้า CX-5 จำนวน 93 คัน, มาสด้า CX-8 จำนวน 142 คัน และมาสด้า บีที-50 จำนวน 118 คัน ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับสถานการณ์ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา

         “จากตัวเลขยอดขายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มาสด้ามียอดขายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2564 จำนวน 31,635 คัน โดยรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวีมีการเติบโตสูงสุด เพิ่มขึ้น 20% จำนวน 11,883 คัน รถยนต์นั่งยังคงเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเช่นเคย ด้วยจำนวน 18,602 คัน ในขณะที่รถปิกอัพมียอดขายสะสมที่ 1,150 คัน ซึ่งจากยอดขายรถยนต์ที่เติบโตขึ้นเหล่านี้ ล้วนเกิดจากความสำเร็จในการเปิดตัวแนะนำ MAZDA FAMILY SUV รวมถึงการปรับกลยุทธ์ของรถในตระกูล ครอสโอเวอร์เอสยูวี CX-Series ที่ดึงดูดความสนใจจากลูกค้าจนส่งผลให้รถทุกรุ่นของมาสด้าปรับตัวดีขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ล้วนแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการสื่อสารการตลาด การขาย และบริการหลังการขาย ที่ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น ไร้ความกังวล และมั่นใจว่ามาสด้าจะให้การดูแลรถยนต์ของลูกค้าไปตลอดอายุการใช้งาน” นายธีร์ กล่าวเสริม


         ในขณะที่ยอดจองรถยนต์มาสด้าในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ผ่านมาได้ครึ่งทาง รถยนต์มาสด้าได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะตระกูล CX-Series ทั้ง 4 รุ่น ต่างได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าจำนวนมาก โดยมียอดจองสะสมทะลุ 1,300 คันไปแล้ว โดยแบ่งออกเป็นสัดส่วนรถยนต์นั่ง 40% และรถอเนกประสงค์ 60%

Tags :

view