ทดลองขับ Accord e:HEV TECH ไฮบริดตัวหรู

ทดลองขับ Accord e:HEV TECH ไฮบริดตัวหรู

     

           

       หลังจากได้ทดลองขับ Accord EL แบบเครื่องยนต์เบ็นซินกันไปแล้วเราก็ต่อด้วยดการทดลองขับ Accord e:HEV TECH แบบไฮบริดรุ่นล่าสุดของทาง Honda ที่ดูเป็นอีกตัวเลือกสำหรับแฟนๆของค่ายที่ต้อการรถยนต์ที่หรูหรา มีระดับ มาใช้งานแถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย         

Honda Accord e:HEV TECH

            มาถึงเจ้า Honda Accord e:HEV TECH ที่มีระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) โดยภายนอกตัวรถหลักๆก็จะคล้ายกับรุ่น EL แต่ก็มีหลายๆจุดปรับเปลี่ยนให้เอกลักษณ์ของรุ่น  e:HEV TECH เริ่มจาก โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้าทั้งหน้าและหลัง ยางขนาด 235/45r18 กับล้อขนาด 18 นิ้วดีไซน์พรีเมียมในรุ่น e:HEV เติมอารมณ์สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยสปอยเลอร์หลัง สัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้ายของตัวรถ และเพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางด้วยซันรูฟพร้อมระบบ One-Touch อีกด้วย


            ภายในเป็นสีดำสลับน้ำตาลที่ดูหรูหรามากขึ้น ตัวเบาะนั่งเพิ่มปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ระบบปรับอากาศเพิ่มระบบฟอกอากาศในห้องโดยสาร พลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster Technology)มาด้วย •           พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่ม รับ-วางสายโทรศัพท์ รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri พร้อมปุ่มควบคุมระบบการทำงานที่อยู่ใน Honda SENSING ได้แก่ ACC with LSF และ LKAS หรือพร้อมปุ่มควบคุม HUD ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ และ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD)


        Accord e:HEV เป็นรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว คือมอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และยังใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน ที่มีจุดเด่นคือสามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด โดยระบบนี้จะผลิตกำลังสูงสุดมาให้ใช้งานได้ถึง 215 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร จากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 97 กรัม/กิโลเมตร


        โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) มอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และในขณะลดความเร็วจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดจากการลดความเร็วให้กลับเป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอรี่ ซึ่งในระบบนี้จะให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และให้ความเงียบเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง โดยแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ได้อย่างต่อเนื่องและทำความเร็วได้สูงสุดถึง130 กิโลเมตร/ชั่วโมง


       โหมดระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) เป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว และมีอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และในขณะลดความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและชาร์จไฟกลับ


        โหมดเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พลังขับเคลื่อนจะมาจากเครื่องยนต์ โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อโดยตรง เหมาะสมกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือเร่งแซงยามคับขัน และยังมีโหมดสปอร์ต(Sport Mode) ที่ช่วยให้ผู้ขับ  Accord e:HEV เร้าใจในอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้น สุดท้ายโฟมด ECON Mode ที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของระบบปรับอากาศ  เครื่องยนต์และระบบเกียร์ให้สัมพันธ์กัน


        การทดลองขับ  Accord e:HEV เรากลับมาเริ่มต้นกันที่เส้นทางเดิมโดยขับออกจาก  ศูนย์ฝึกอบรม ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) บางชัน ภายในตัวรถของเจ้า Accord e:HEV TECH จะถูกออกแบบให้ดูหรูหรากว่ารุ่น EL อย่างชัดเจน อีกทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ยังมีมาให้ใช้งานมากกว่า เริ่มออกเดินทางช่วงบ่ายของวันสภาพการจราจรที่เจอบนท้องถนนก็ยังคับคั่งอยู่เหมือนเดิม การออกตัวของ Accord e:HEV TECH ถือว่าทันใจและนุ่มนวลมากจากการขับขี่ในโหมดปกติ มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานได้กระฉับกระเฉงดี แถมยังเงียบอีกด้วย ยิ่งต้องอยู่ในสถานะ “คลาน” บนท้องถนนและยังต้องเจอการขับขี่แบบเร่งๆหยุดๆด้วยแล้ว ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ายิ่งดูเหมาะสมยิ่งนัก พอสภาพกรจราจรเริ่มคล่องตัว จังหวะเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ายิ่งช่วยให้การขับขี่มีความทันใจมากขึ้นอย่างรู้สึกได้


         ในขณะที่ต้องชลอความเร็วรวมถึงช่วงที่ต้องเบรก ยังมีการชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่อีก โดยเราสามารถสังเกตุการทำงานได้จากหน้าจอแสดงผลตรงกลางหรือที่หน้าปัดด้านผู้ขับได้ ขับมาได้สักพักก็ออกสู่ถนนที่เป็นเส้นทางนอกเมืองเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ลองเริ่มกดคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วขึ้นอีกหน่อย เจ้า Accord e:HEV TECH มีการตอบสนองที่ทันใจมากขึ้นจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ที่ช่วยกัร “ดัน” ให้ตัววิ่งได้อย่าง “จัดจ้าน” มาก อัตราเร่งเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนความเร็วเผลอไปแตะ 140 กม./ชม. อย่างรวดเร็ว เลยต้องยกคันเร่งลงหน่อย(ต้องขออภัยที่ความเร็วเกินกฏหมายกำหนด) อาการ “รอรอบ” ช่วงไต่ความเร็วของเครื่องยนต์แบบปกตินั้นจะไม่มีให้รู้สึกเลยใน Accord e:HEV TECH คันนี้


        ลองใช้โฟมด EV ล้วนดูบ้างว่าสามารถทำความเร็วได้เท่าไร ลองกดคันเร่งอย่างช้าๆและต่อเนื่องความเร็วของรถสามารถไต่ไปได้เกือบๆ 80 กม./ชม.ก็ตัดการทำงานซึ่งก็มาจากปริมาณแบตเตอรี่มีอยู่ไม่เยอะมากด้วยนั่นเอง สำหรับการทรงตัวดูแล้ว Accord e:HEV TECH จะมั่นคงและหนึบแน่นกว่าตัว EL อย่ารู้สึกได้ อาจะเป็นเพราะน้ำหนักตัวที่มากกว่ากัน 100 กกกว่าๆ กับยางหน้ากว้างและแก้มเตี้ยกว่ากันด้วย ยามผ่านช่วงถนนนชำรุดก็เลย “ตึงตัง”.กว่ากันเล็กน้อย แต่ก็ถือว่านุ่มนวลกว่ารถหลายๆรุ่นที่เคยลองขับมา ทดลองขับด้วยเส้นทางเดิมระยะทาง 118 กม. อัตราการสิ้นเปลืองแบบใช้งานจริงทำได้ 18.8 กม./ลิตร


         สรุป  Accord e:HEV TECH เป็นรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว นุ่มนวล อัตราเร่งดี ไม่อืดอาด ความประหยัดสามารถทำได้ค่อนข้างน่าพอใจ อีกทั้งสิ่งความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกก็มาให้อย่างเต็มลำ เหมาะสมและลงตัวกับผู้บริหารหรือครอบครัวที่เป็นสาวกค่าย Honda อย่างแน่นอน




Tags :

view