TERRA รถยนต์อเนกประสงค์ของค่าย NIISAN ที่เปิดตัวและออกวางจำหน่างมาประมาณ 3 ปี ก็ถึงเวลาปรับเปลี่ยนและปรับปรุงให้ตัวรถตามยุคสมัยมากขึ้น ฟังค์ชั่นที่ทันสมัยอย่างที่รถยุคใหม่ควรจะมีทาง NISSAN ก็จับใส่มาให้อย่างครบๆเลยทีเดียว
NEW NISSAN TERRA ได้ถูกพัฒนาตามแนวคิด “Unbreakable Design” ที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตัวรถ แต่ก็ให้ความรู้สึกที่หรูหรามีระดับมาขึ้นกว่าตัวเดิม เริ่มจากกระจังที่ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพิ่มเส้นโครเมียมทั้งแนวตั้งที่มีขนาดใหญ่และเส้นแนวนอนด้านในกระจังช่วยเสริมบุคลิกที่หรูหรามีระดับ รับกับเส้นสายที่ต่อเนื่องจากฝากระโปรงที่ออกแบบใหม่ กันชนหน้าดีไซนืใหม่พร้อมเสริมแผ่นกันกระแทกด้านล่างสีเงินที่ออกแบบมาใหม่ด้วยเช่นกัน
ส่วนโคมไฟหน้าดีไซน์ใหม่ล้ำสมัยมากขึ้น ตัวโคมทรงเรียวบางเป็นแบบ Quad LED จำนวน 4 ดวง ที่ให้ความสว่างมากขึ้นว่าเดิมถึง 34% ไฟ พร้อม Daytime Running Light ที่ดีไซน์ใหม่ดูสวยงามและทันสมัยกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ถัดลงมาเป็นไฟตัดหมอก LED แบบแสงสีขาวดีไซน์ใหม่อีกเช่นกัน
ส่วนด้านข้างของตัวรถเส้นสายยังคงเหมืออนเดิมซึ่งดูสวยงามอยู่แล้ว ล้อทั้ง 4 เป็นขนาด 18 นิ้วลายใหม่ ด้านท้ายของ NEW NISSAN TERRA ได้ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่สปอยเลอร์บนหลังคาจนถึงชายกันชนด้านล่าง ตัวฝาท้ายก็เพิ่มความหรูหรามากขึ้นด้วยการใช้วัสดุโครเมียมและชิ้นส่วนสีเงินมาตกแต่งมากขึ้น อีกทั้งฝาประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์ด้านใต้กันชนหลัง (Auto Lift Gate) ส่วนของไฟท้ายก็ดีไซน์ใหม่โดยลดความสูงและเพิ่มความกว้างมากขึ้นจนดูสวยงามและทันสมัยขึ้นตามยุค โดยเป็นไฟ LED แบบ Light Guide เส้นคู่ และไฟเบรกแบบ LED ให้ทั้งความสว่าง เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ภายในของ NEW NISSAN TERRA ก็ได้ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด เริ่มจากเพิ่มฉนวนลดเสียงรบกวนทุกจุดสำคัญของโครงสร้างของรถ ติดตั้งกระจกตอนหน้าและประตูคู่หน้าแบบ Acoustic Glass เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก แผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่ดูกว้างเต็มพื้นที่ส่งผลให้รู้สึกถึงห้องโดยสารที่กว้างขวางยิ่งกว่าเดิม การตกแต่งด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ที่ให้สัมผัสนุ่มสบายทั้งห้องโดยสาร พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปทรง D-shape สไตล์สปอร์ต ปรับอัตราทดใหม่ให้ควบคุมได้อย่างง่ายดาย
ตัวหน้าปัดออกแบบใหม่พร้อมปรับให้จอแสดงผลตรงกลางให้มีขนาดถึง 7 นิ้ว ชัดเจนทุกการใช้งาน และยังสามารถปรับตั้งการทำงานของระบบต่าง ๆผ่านปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยได้ทั้งหมด รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติด้วย ส่วนหน้าจอแสดงผล Display Audio ใหม่แบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 9 นิ้ว สารมาถเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย (Wireless Apple CarPlay) เพิ่มความสะดวกอย่างปลอดภัยตลอดการขับขี่ สามารถใช้งาน Apple CarPlay ผ่านบลูทูธได้โดยไม่จำเป็นต้องต่อสายชาร์จด้วย ช่วงที่นั่งผู้ดดยสารแถว 2 ยังมีจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 11 นิ้ว สามารถสตรีมมิ่งช่องโปรด อย่างเช่น NetFlix และ YouTube ผ่านช่อง HDMI ได้ พร้อมช่องชาร์จไฟ USB-A 3 จุด และUSB-C 2 จุด ตอบรับการใช้งานในการเดินทางยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
ระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบอัตโนมัติแยกการควบคุมอุณภูมิตามความต้องการของห้องโดยสารซ้าย-ขวาแยกกันอิสระ ช่องแอร์ดีไซน์ใหม่ลงตัวกับห้องโดยสารกว่าเดิม พร้อมปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศแบบแยกให้ผู้โดยสารด้านหลังสามารถปรับแรงลมอิสระตามความต้องการ ตัวเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ดูหรูหราขึ้นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ตัวคอนโซลกลางดีไซน์ใหม่หมด พร้อมเพิ่มพื้นที่ที่วางแขนพร้อมช่องเก็บของที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมาคราวนี้ NEW NISSAN TERRA เปลี่ยนมาใช้เบรกมือแบบไฟฟ้าแล้ว แต่เฉพาะรุ่น VL 2WD และ VL 4WD เท่านั้น แค่นี้ก็ช่วยให้ผัขับสามารถขับชี่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายกว่าเดิมเยอะเลย
ตัวห้องโดยสารยังสามารถปรับพื้นที่ห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระได้ตามความต้องการ ด้วยการออกแบบที่นั่งแถวที่สอง และสาม ให้ปรับรูปแบบได้หลากหลาย เช่นการพับที่นั่งให้ราบเสมอกันเพื่อรองรับการบรรทุกสัมภาระได้เต็มพื้นที่ พร้อมฟังก์ชั่น Auto Tumble Seat ที่คอนโซลกลาง โดยจะพับอัตโนมัติเบาะแถวที่ 2 อัตโนมัติแค่กดปุ่มเพียงจากสวิตช์แบบ 1-Touch Remote Fold & Tumble เพื่อความสะดวกในการขึ้นลงของผู้โดยสารแถวที่ 3 อีกทั้งที่นั่งของผัโดยสารด้านหลังยังออกแบบให้เป็น Theatre Style Seating ทำให้ไม่บดบังทัศนวิสัยท้านท้ายของผู้ขับ และทำให้ผู้โดยสารแถวที่ 2 รู้สึกโปร่งโล่งสบายอีกด้วย
NEW NISSAN TERRA มาพร้อม นิสสัน 360° เซฟตี้ ชิลด์ (360° Safety Shield Technology) เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ
เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) เทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะทำงานทันทีที่เริ่มขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน กล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และแสดงผลเป็นภาพมุมสูงแบบ Bird’s-eye View ผ่าน หน้าจอเครื่องเสียงกลางคอนโซลขนาด 9 นิ้ว ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ โดยจะปรากฏบนหน้าจอเครื่องเสียงกลางคอนโซล ช่วยให้การขับรถในสถานการณ์ต่าง ๆ ง่ายยิ่งขึ้น และพิเศษขึ้นไปอีก สำหรับ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รุ่น 4WD ที่เพิ่มระบบ Off-Road Mode เมื่อเปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งช่วยเพิ่มมุมมองรอบตัวรถขณะขับขี่ให้คุณมั่นใจและปลอดภัย แม้ในทางที่ลำบาก รวมถึงการทำงานร่วมกับ Parking Sonar ที่ติดตั้งเซนเซอร์ที่กันชนหน้า 4 จุด และกันชนหลัง 4 จุด เมื่ออยู่ในเกียร์ D และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 10 km/h ทันทีที่เซนเซอร์ตรวจพบวัตถุ จะส่งเสียงเตือนและระบบ IAVM จะแสดงภาพโดยอัตโนมัติที่หน้าจอเครื่องเสียง เพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่ ลดข้อจำกัดสำหรับรถยนต์ที่มีความสูงได้เพิ่มมากขึ้น
เทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning - IFCW) เทคโนโลยีจะส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด หากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า เมื่อเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป โดยเทคโนโลยีนี้สามารถตรวจจับได้ถึงรถคันที่สองที่อยู่ต่อจากคันหน้า
เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB)โดยระบบนี้จะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็ว และหยุดรถ เพื่อลดความรุนแรง หรือ ลดความสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุ
เทคโนโลยีเตือนรถในมุมอับสายตา (Blind Spot Warning - BSW)เมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา ไฟเตือนที่อยู่บริเวณกระจกมองข้างจะสว่างขึ้น หากมีการเปิดไฟเลี้ยว ไฟเตือนจะกะพริบ พร้อมกับมีเสียงเตือนผู้ขับเมื่อสัญญาณไฟเลี้ยวถูกเปิด ให้ผู้ขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น เมื่อต้องการเปลี่ยนช่องทางขับขี่
เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) ระบบจะเตือนระหว่างเข้าเกียร์ถอยหลัง เมื่อตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกระพริบเตือนในด้านเดียวกันกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามา
เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning - LDW)เมื่อตรวจพบว่ารถกำลังออกนอกช่องทางขับขี่ และเสี่ยงต่ออุบัติเหตุจากด้านข้าง โดยที่ไม่ได้เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและไฟที่หน้าปัด เพื่อเตือนให้รู้ว่ารถกำลังออกนอกช่องทาง เพิ่มความมั่นใจ และเสริมปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีเตือนผู้ขับขี่เมื่อรู้สึกถึงการขาดสมาธิหรือเหนื่อยล้า(Intelligent Driver Alertness - IDA)ระบบนี้จะส่งเสียงพร้อมข้อความเตือนบนหน้าจอ เพื่อให้ผู้ขับจอดพัก หากตรวจพบลักษณะการขับขี่ที่แสดงถึงการขาดสมาธิ หรือเหนื่อยล้า
NEW NISSAN TERRA ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ช่วยให้ทุกการขับขี่มั่นใจได้ในความปลอดภัยแบบ Passive Safety อย่าง
เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) และ เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันHill Descent Control (HDC) เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชันช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลขณะออกตัว ขณะที่เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันช่วยป้องกันไม่ให้รถไถลเมื่อขับลงทางลาดชันสูงโดยใช้กำลังเครื่องยนต์ช่วยหน่วงความเร็วโดยไม่ต้องเหยียบเบรกช่วย
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control (TCS) และ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัจฉริยะ Vehicle Dynamic Control (VDC) TCS จะควบคุมการขับขี่โดยให้ล้อไม่หมุนฟรี มั่นใจได้แม้อยู่บนสภาพถนนที่ลื่นและควบคุมได้ยาก มาพร้อม VDC ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถขณะหักหลบกะทันหัน สามารถหักเลี้ยวได้อย่างมั่นใจ ตอบสนองทุกการขับขี่อย่างฉับไว ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสถานการณ์คับขัน
ระบบเบรก ABS, EBD และ B-LSD นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ มาพร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (Anti-lock Braking System – ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (Electric Brake Force Distribution System – EBD) ระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) และไฟเบรกดวงที่สามพร้อมไฟ LED สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
ถุงลม SRS คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง เพื่อช่วยลดความรุนแรงที่เกิดจากการชนทั้งด้านหน้าและด้านข้างให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts) เข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า ELR แบบสามจุด ELR และสามารถดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ที่สามารถปรับระดับได้ตามขนาดร่างกายของผู้โดยสารแต่ละคน รวมถึงเข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลัง ELR แบบสามจุดสามตำแหน่งที่นั่ง ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยด้วยจุดยึดเบาะที่นั่งเด็กแบบ ISOFIX เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เป็นเด็ก
โครงสร้างนิรภัย (BODY REINFORCEMENT) ตัวถังดีไซน์แกร่งที่ให้ความปลอดภัยเป็นพิเศษ เอกสิทธิ์เฉพาะนิสสัน ที่สามารถรองรับการกระแทกรอบด้าน เพื่อปกป้องทุกชีวิตภายในห้องโดยสารด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
NEW NISSAN TERRA มากับเครื่องยนต์สมรรถนะสูงตัวเดิมรหัส YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร (Nm) ตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติแบบ 7 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด (M mode) และบังรองรับน้ำมันดีเซลทุกชนิดทั้ง B7, B10 และ B20 และช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษาโดยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 20,000 กิโลเมตร ส่วนเทคโนโลยีขับเคลื่อนสี่ล้อ 4x4 (4WD) ที่ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อ หรือ two-wheel drive (2H) เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ four-wheel drive ได้ทั้ง 4H และ 4L ผ่าน Rotor Switch ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง พร้อม ฟังก์ชัน shift-on-the-fly ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ขณะขับขี่ จาก 2H เป็น 4H ได้ทันทีขณะรถวิ่งไม่เกิน 100 กม./ชม. เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ขณะที่โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบความเร็วต่ำ low range four-wheel drive หรือ 4LO สำหรับการขับขี่บนพื้นที่ทุรกันดาร และยังมาพร้อมกับระบบ Electronic Locking Rear Differential (Diff-Lock) ช่วยกระจายกำลังไปยังล้อหลังทั้ง 2 ข้างเพื่อเสริมกำลังฉุดให้ขับออกจากหล่มหรือในสถานการณ์ที่ต้องการแรงบิดสูงในโหมด 4L ได้ง่ายขึ้น ระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) โดยระบบจะส่งแรงไปยังล้อที่ลื่นไถลให้การออกตัวที่ลื่น พร้อมกระจายแรงขับขี่ไปที่ล้อแต่ละข้างเมื่อขับขี่ในโหมด 4H
สัมผัสแรกกับเจ้า NEW NISSAN TERRA คือมองเห็นหน้าตาแล้วดูสวยงามและทันสมัยกว่าตัวเดิมที่ดูไม่หนีจากรถกระบะ Navara มากนัก ฝากระโปรงทรงเดิทแต่ปรับด้านหน้านิดนึงให้รับกับไฟและกระจังหน้าใหม่ ตัวไฟหน้าออกแบบใหม่เป็น LED 4 ดวงสไตล์ Pro4Max ส่วนไฟ Daytime ทรงบูมเมอแรง ก็ปรับใหม่ดูทันสมัยขึ้น กระจังหน้าออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่พร้อมเสริมโครเมี่ยมให้เยอะขึ้นตามสไตล์รถหลายๆรุนของค่าย กันชนหน้าและไฟตัดหมอกใหม่ด้วยเช่นกัน ด้านข้างลายเส้นสายของตัวถังยังเหมือนเดิม ล้อทั้ง 4 เป็นลายใหม่ทั้งหมด ส่วนเบรกหลังคราวนี้ NEW NISSAN TERRA ให้มาเป็นแบบดิสก์เรียบร้อย ด้านท้ายรถก็ได้ปรับเปลี่ยนใหม่หมดไม่ว่าจะเป็นเสาอากาศวิทยุ สปอนเลอร์ท้าย โคมไฟท้าย กันชน ซึ่งโดยรวมดูแล้วมาในแนวหรูหรามากกว่าสปอร์ตอย่างคู่แข่งบางค่าย ส่วนระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้าที่สามารถใช้เท้าควบคุมการทำงานอันนี้ถือว่ามีการทำงานที่ราบรื่น ทันใจ กว่าบางรุ่นของค่ายคู่แข่ง
เปิดประตูสู่ห้องโดยสารจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า NEW NISSAN TERRA มาคราวนี้ลงมือลงแรงไปไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เบาะนั่งทรงเดิมแต่ดีไซน์ให้มีลายลูกเล่นให้ดูหรูหรากว่าเดิมที่มาแบบเรียบๆ ปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้าด้านคนขับ แต่ด้านผู้โดยสารฝั่งซ้ายปรับด้วยมือแถมฟังค์ชั่นการปรับยังน้อยไปหน่อยด้วย แผงหน้าปัดทั้งหมดออกแบบใหม่สไตล์เดียวกับหลายๆรุ่นในค่าย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกคับคั่ง พวงมาลัยทรงสปอร์ต “ตูดตัด” อย่างชอบเลย จอวิทยุ 9 นิ้วใหญ่ดีเวลาใช้งานสะดวกมาก เสียงก็ถือว่าแจ่มแจ๋วมากเพราะเป็นลำโพงของค่าย Bose เสียด้วย แถมยังสามารถเชื่อมต่อได้ทุกแบบไม่มีกั๊ก คันเกียร์ทรงสวยระยะถนัดมือดี ถัดลงมาเป็นที่อยู่ของปุ่มพับเบาะหลัง ปุ่มควบคุมล็อคเฟืองท้ายและปุ่มควบคุมช่วยลงทางลาดชัน และคราวนี้ NEW NISSAN TERRA มีเบรกมือไฟฟ้ามาให้ใช้งานด้วย (แต่น่าจะมีระบบ Auto Brake Hold มาให้เลยนะ)
สตาร์ทเครื่องยนต์รู้สึกได้เลยว่าภานในห้องโดยสาร “เงียบ” มาก ขยับคันเกียร์และกดคันเร่ง NEW NISSAN TERRA ออกตัวได้ค่อนข้างทันใจเลยทีเดียว การไต่ความเร็วขึ้นไปถือว่าไปได้อย่างเรื่อยๆไม่ “ดุดัน” หรือ “หนักหน่วง” อย่างเครื่องยนต์บล็อคใหญ่ๆ แต่ด้วยตัวเทอร์โบเป็นแบบคู่เลยช่วยส่งพลังออกมาได้อย่างต่อเนื่อง การเร่งแซงทำได้ค่อนข้าง “ดี” การทำงานของเกียร์ต่อเนื่องและราบรื่น อาการกระตุกช่วงรอยต่อเกียร์มีน้อย การทรงตัวช่วงความเร็วต่ำถือว่าดีเพราะนุ่มนวลไม่ค่อยแข็งกระด้าง ช่วงความเร็วสูงหน่อยก็ยังรู้สึก “หนึบ” กำลังดี แต่จะรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในการขับหน่อยตรงที่น้ำหนักของพวงมาลัย “เบา” ไปหน่อย การเข้าโค้งตัวรถมีอาการเอียงไม่มากช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ขับดี บางช่วงต้องเบรกกระทันหันระบบเบรกที่เป็นดิสก์ทั้ง 4 ล้อมีประสิทธิภาพที่สามารถหยุดได้อย่างปลอดภัย แต่ความรู้สึกของแป้นเบรกจะดูนุ่มไปหน่อย(สำหรับผู้ขับที่เป็นชายตัวใหญ่ๆ)
ช่วงล่างในสถาพถนนที่ชำรุดหลายๆช่วง NEW NISSAN TERRA สามารถผ่านไปได้ย่างราบรื่นและนุ่มนวล ซึ่งยอมรับเลยว่า NEW NISSAN TERRA นั้นคงสามารถ “ลุย” ไปตามเส้นทางธรรมชาติได้อย่างมั่นใจแน่นอน ส่วนทัศนวิสัยการขับถือว่า “ดี” ผู้ขับสามารถมองเห็นได้รอบคัน แต่ติดตรงด้านหน้าที่มี “สันนูน” ของฝากระโปรงขึ้นมาบังสายตานิดหน่อยสำหรับผู้ขับที่มีส่วนสูงไม่มากนัก ส่วนตัวช่วยการขับขี่และตัวช่วยความปลอดภัยหลายๆอย่างสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ดี สุดท้ายเมื่อได้ทดลองขับระยะทางเกือบๆ 400 กม. ด้วยสภาพการจราจรปกติและใช้ความเร็วปกติตามที่กฎหมายกำหนด NEW NISSAN TERRA ได้แจ้งอัตราการสิ้นเปลืองมาที่ 14.8 กม./ลิตร ครับผม
สรุป NEW NISSAN TERRA มาคราวนี้ได้ปรับปรุงทั้งภายนอกและภายในให้ดูทันสมัยและหรูหรามากขึ้น พวกอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายและอุปกณ์เพื่อความปลอดภัยต่างๆมีมาให้อย่างเต็มลำ สมรรถนะโดนรวมทั้งขุมพลัง ระบบส่งกำลัง ช่วงล่าง เบรก ถือว่า “ดี” เพียงพอทุกการใช้งาน ส่วนราคา รุ่น 2.3 E 2WD ราคา 1,199,000 บาท รุ่น 2.3 VL 2WD ราคา 1,449,000 บาท และตัวท้อปที่ได้ลองขับนี้ รุ่น 2.3 VL 4WD ราคา 1,499,000 บาท ถือว่า “เร้าใจ” สุดในท้องตลาดทีเดียวครับ
