หลังจากเปิดตัว ฮุนได สตาร์เกเซอร์ ในงานงานมอเตอร์โชว์ 2023 ครั้งล่าสุด ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) ก็ได้จัดทริปทดสอบรถยนต์สำหรับสื่อมวลชน ภายใต้แนวคิด “สตาร์เกเซอร์ ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด” (STARGAZER the Ultimate Comfor) โดยมุ่งสู่ภาคใต้ของประเทศไทย เส้นทางภูเก็ต – พังงา ซึ่งเป็นเส้นทางทดลองขับที่ครอบคลุมระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร มีสภาพเส้นทางทั้งทางราบและทางโค้ง
นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ฮุนได สตาร์เกเซอร์ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาด บริษัทจึงเดินหน้าสานต่อความสำเร็จ ด้วยการจัดกิจกรรมทดสอบสำหรับสื่อมวลชนในครั้งนี้ เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสความสบายไม่มีที่สิ้นสุด ทุกท่านจะได้ทดลองขับและนั่งในสตาร์เกเซอร์ บนเส้นทางที่หลากหลาย และจะได้สัมผัสถึงความสบายจากการใช้งานขับขี่บนถนนจริง รวมไปถึงความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นที่ครบครันในรถยนต์รุ่นนี้"
สำหรับการเดินทางเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่เช้าตรู่ของวันแรกซึ่งนัดพบกันที่โรงแรม โนโวเทล สุวรรณภูมิ เพื่อรับฟังรายละเอียด ผลิตภัณฑ์ จากนั้นเดินทางไปสนามบินเพื่อออกเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ต โดยเริ่มต้นทดลองขับกันที่สนามบินภูเก็ต สตาร์เกเซอร์เป็นรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นมาด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์กับการออกแบบด้วยเส้นโค้งที่เฉียบคม (One Curve Design) พร้อมแถบไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED
มิติตัวถัง Hyundai Stargazer ความยาว : 4,460 มม.ความกว้าง : 1,780 มม. ความสูง : 1,695 มม. ระยะฐานล้อ : 2,780 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น : 195 มม.มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นเทรนด์ (Trend), สไตล์ (Style), สมาร์ท 6 (Smart 6) และ สมาร์ท 7 (Smart 7) พร้อมทางเลือกสีตัวถังหลายรูปแบบ ประกอบด้วย สีดำ มิดไนท์ แบล็ก เพิร์ล (Midnight Black Pearl), สีขาว ครีมมี่ ไวท์ เพิร์ล (Creamy White Pearl), สีเงิน แม็กเนติก ซิลเวอร์ เมทัลลิก (Magnetic Silver Metallic) และ สีเทา ไททัน เกรย์ เมทัลลิก (Titan Grey Metallic
เพียงเปิดประตู ผู้โดยสารจะพบกับห้องโดยสารกว้างขวาง ซึ่งออกแบบและพัฒนาภายใต้แนวคิด ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด (Endless Comfortable) สำหรับพื้นที่บรรทุกสัมภาระนั้นเหนือระดับเช่นกัน ด้วยช่องเก็บของที่มีมากกว่า 30 ช่อง
ในการเดินทางเป็นระยะทางไกล Hyundai STARGAZER เด่นในการออกแบบเพื่อเอื้อประดยชน์ให้กันผู้โดยสารในรถเป็นสำคัญ อย่างผู้โดยสารสามารถเอื้อมหยิบสัมภาระหรือเอกสาร ที่เก็บไว้ในช่องเก็บของหลังเบาะอย่างง่ายดาย หรือจะเลือกใช้อุปกรณ์สื่อสารที่สามารถชาร์จไฟได้พร้อมกันผ่านที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย และ ช่อง USB ซึ่งมีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ในการเดินทางช่วงนี้ ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสสมรรถนะของ Hyundai STARGAZER ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง Smartstream ขนาด 1.5 ลิตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ IVT ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิด 144 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ประกอบด้วย อีโค (Eco), นอร์มอล (Normal), สปอร์ต (Sport) และ สมาร์ท (Smart) โดยรูปแบบสมาร์ทจะปรับเปลี่ยนการตอบสนองอัตโนมัติ ตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่ได้อีกด้วย
โดยHyundai STARGAZER มอบความอุ่นใจให้กับผู้โดยสารทุกที่นั่งตลอดการเดินทาง เพราะมี “Hyundai SmartSense” ระบบความปลอดภัยที่มอบความมั่นใจทุกการเดินทาง อาทิ ระบบช่วยเหลือและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (FCA) และ ระบบช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัย เมื่อมีรถในจุดอับสายตา (BCA)
จากการทดลองขับเริ่มแรกหน้าตาของเจ้า Hyundai STARGAZER ดูล้ำอนาคตเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับรุ่นพี่ staria ซึ่งบางคนอาจว่าแปลกตาเกินไป แต่หลายๆคนก็ว่าดูสวยและทันสมัยดี ตัวรถเป็นแบบ 5 ประตูที่กำลังเป็นที่นิยมในยุคนี้จากการใช้งานที่อเนกประสงค์กว่ารถ 4 ประตูทั่วๆไป ด้านหน้ามีเส้นสายไฟ LED วางไว้ให้ดูแตกต่างจากรถรุ่นอื่นอย่างชัดเจน ส่วนด้านหลังดีไซน์ไฟท้ายได้แปลกตาและเหมือนช่วยให้ผู้ขับขี่ตามหลังเห็นชัดเจนมากขึ้น
ห้องโดยสารออกแบบดูดีและใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การดีไซน์หลายๆจุดจะดูเป็นเอกลักษณ์ประจำค่ายเหมือนกันอย่างส่วนของพวงมาลัยที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ตัวเบาะนั่งดูเหมือนจะนั่งสบายแต่ตัวผู้ขับที่มีส่วนสูงระดับ 6 ฟุต จะดูเหมือนไม่ค่อยสบายตัวเท่าไรนัก แต่ถ้าผู้ขับส่วนสูงปกติก็คงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนทัศนวิสัยรอบด้าน Hyundai STARGAZER ทำได้ค่อนข้างดี โปร่งสบายตา คอนโซลหน้าทรงหนาและยื่นเข้าหาผู้โดยสารคู่หน้ามากน่าจะมาจากช่วงฝากระโปรงหน้าสั้นจนห้องเครื่องกินพื้นที่เข้ามาในห้องโดยสารบางส่วน แต่ก็ไม่ใช้ปัญหาอะไรเพราะทาง Hyundai ได้ออกแบบมาลงตัวและเนียนตาไม่ใช่น้อย ส่วนด้านหลังคันที่ทดลองขับเป็นแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งก็นั่งได้สบายพอตัว และเมื่อนเทียบกับรุ่น 6 ที่นั่งแล้ว ตัว 7 ที่นั่งกลับรู้สึกนั่งสบายกว่า
เริ่มทดลองขับสตาร์ท เข้าเกียร์ เหยียบคันเร่งออกตัว รู้สึกว่า Hyundai STARGAZER ออกตัวได้ง่ายดี ยามเจอการจราจรที่คับคั่งสามารถขับได้อย่างสบายใจ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร สามารถตอบสนองการใช้งานได้ดี การเร่งแซงก็ถือว่าน่าประทับใจ อัตราเร่งพอตัว ไม่จัดจ้านแต่ก็เพียงพอทุกสถานการณ์บนท้องถนน เสียงการทำงานของเครื่องยนต์ “แผด” ดังหน่อยยามเร่งแซง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรแถมยังรู้สึกเพิ่มความเร้าใจยามขับขี่ให้กับผู้ขับไม่น้อย การทำงานของช่วงล่างค่อนข้างนุ่มนวล สามารถผ่านสภาพพื้นผิวถนนบางเส้นทางที่ขรุขระได้อย่างน่าประทับใจ ผู้โดยสารนั่งได้อย่างสบายพอตัวเพราะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนน้อย จุดนี้ Hyundai STARGAZER ทำได้ดีเลยทีเดียว การเบรกในช่วงความเร็วต่ำทำได้นุ่มนวลไม่จับดีจนผู้โดยสารหัวทิ่ม น้ำหนักแป้นเหยียบก็กำลังดี ผู้ขับที่เป็นสาวๆก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายๆ
พอออกนอกเมืองที่มีการจราจรเบาบางและสามารถใช้ความเร้วได้มากขึ้น กดคันเร่งเพิ่มความเร็วก็เพิ่มตามอย่างทันใจ สามารถไต่ความเร็วขึ้นไปได้อย่างเรื่อยๆถึงแม้ในรถจะมีน้ำหนักของผู้โดยสารระดับ 3 คนก็ตาม การทรงตัวยังทำได้ดี ความเร็วเกิน 100กม./ชม.ก็ยังนิ่งและมั่นคง การใช้งานเดินทางไกลก็เลยเหมารวมว่า “ดี” สามารถตอบสนองการใช้งานขับท่องเที่ยวช่วงวันหยุดได้สบายๆ ช่วงล่างยามใช้ความเร็วสูงรู้สึก “นุ่มนวล” ไปหน่อย แต่ก็ช่วยให้ผู้โดยสารไปเมื่อยล้าเวลานั่งโดยสารเป็นระยะเวลานาน ตัวรถมีขนาดพอดีๆสามารถใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัวและเวลาเดินทางไกลก็ไม่ต้องเกร็งมากนักตอนอยู่ท่ามกลางรถคันใหญ่ๆบนท้องถนน ระบบเบรกยามที่ต้องชะลอรถช่วงความเร็วสูงๆยังถือว่าทำงานได้ดี สามารถลดความเร็วตัวรถได้อย่างดี นิ่ง และนุ่มนวล ส่วนอัตราสิ้นเปลืองอยู่ในระดับ 16 กม./ลิตร ก็ถือว่า “โอเค” นะ
สรุป Hyundai STARGAZER คันนี้สามารถตอบสนองการใช้งานครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างครบถ้วนทั้งการใช้งานในและนอกเมือง สามารถใช้งานได้หลากหลาย สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยที่เต็มลำ ส่วนราคาที่อยู่ในช่วง 7 แสน ถึง 9 แสน ก็คงต้องเลือกจิ้มดูครับว่าจะเอาระดับไหน….