ทดลองขับ NEW MAZDA CX-8 ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว

ทดลองขับ NEW MAZDA CX-8 ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว

      สำหรับ NEW MAZDA CX-8 คือรถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์แบบ 3 แถว ที่มาพร้อมแนวคิด “THE PRECIOUS MOMENTS TOGETHER” ให้ทุกช่วงเวลามีคุณค่าร่วมกัน ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้หรูหราและใส่อุปกรณ์เพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจนล้นคัน ให้ความคุ้มค่าคุ้มราคามากยิ่งขึ้นกว่าตัวก่อน


      NEW MAZDA CX-8 มาคราวนี้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นและนำมาติดตั้งใน CX-8 เป็นรุ่นแรก ซึ่งถือเป็นจุดขายสำหรับรุ่นปรับปรุงใหม่นี้ ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ ส่วนที่เปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมจากรุ่นเดิมมีกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 19 นิ้ว เพิ่มสีภายนอกเทรนด์ใหม่ กับสีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ และสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งเพิ่มความโดดเด่นด้วยวัสดุคุณภาพสูงแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งด้วยวัสดุ Warm Silver ที่มาพร้อมเบาะหนังสีดำ หรือวัสดุ Metal Wood ที่มาพร้อมเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red


      ครั้งแรกกับระบบ MRCC แบบ Stop & Go อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี ห้องโดยสารมีให้เลือกทั้งห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (7-Seat) และแบบ 6 ที่นั่ง (6-Seat) ซึ่งพิเศษด้วยเบาะนั่งแถวที่สอง แบบ Captain seat ปรับไฟฟ้าและtคอนโซลกลาง แถมมากับอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger และ USB สำหรับชาร์จไฟบริเวณเบาะนั่งแถวที่สาม


      เพิ่มเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัด Mazda Connect ช่วยให้ไม่พลาดทุกการติดต่อ สามารถอัพเดทข้อมูลข่าวสาร หรือ รับ-ส่ง ข้อความ จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth พร้อม Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android AutoTM ที่เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ที่แสดงผลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander ที่จัดวางในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างสะดวก



        จัดเต็มด้วยระบบความปลอดภัย i-Activsense ที่มาเพิ่มใน NEW MAZDA CX-8 อย่าง ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Smart Brake Support) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane-keep assist System) ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Alert)ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Control) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (Lane Departure Warning System) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive LED Headlamps) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Smart City Brake Support-Reverse) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced Smart City Brake Support) ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go (Mazda Radar Cruise Control with Stop & Go) เท่าที่ดูๆแล้วก็ถือว่า “ครบ” ตามที่รถยนต์ระดับสูงยุคใหม่พึงมี



        NEW MAZDA CX-8 มาคราวนี้มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ ตัวแรกเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร (Skyactiv-D 2.2) พร้อมเทอร์โบแปรผัน ให้กำลัง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร เครมมาว่าประหยัดน้ำมันถึง 17.5 กม./ลิตรเลยทีเดียว พร้อมทั้งยังมีการติดตั้งระบบช่วยป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ Off-Road (Off-Road Traction Assist) เพิ่มเติมในรุ่นที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD และตัวที่ 2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร (Skyactiv-G 2.5) ให้กำลัง 194 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 258 นิวตัน-เมตร แจ้งมาว่าสามารถประหยัดน้ำมันสูงสุด 13.2 กม./ลิตร และในทุกรุ่นทุกเครื่องยนต์จะมาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีภายใต้ SKYACTIV-Vehicle Dynamics ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุลทุกการเดินทาง


        สำหรับการทดลองขับในครั้งนี้เราได้รับเจ้า NEW MAZDA CX-8 ตัว “Skyactiv-G 2.5”  เครื่องยนต์เบนซินมาเป็นพาหนะในการเดินทางกัน เส้นทางเราจะเริ่มที่ตัวเมืองหาดใหญ่ มุ่งสู่เบตงและก็กลับสู่หาดใหญ่กันอีกครั้ง รวมระยะทาง กว่า 600 กม. ส่วนการเดินทางในเมื่อเจ้า NEW MAZDA CX-8 ที่เราได้รับมาเป็นรุ่น 7 ที่นั่ง ผู้โดยสารในรถก็เลยต้องมีจำนวนเยอะเป็นพิเศษคือจำนวน 5 ท่าน ดังนั้นเราน่าจะได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพในการเดินทางได้อย่างครบถ้วนทั้งด้านสมรรถนะและความสะดวกสบายกัน เริ่มแรกมองดูภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงไม่กี่จุดแต่ดูเข้าตากว่าตัวเดิมอย่างกระจังหน้าจากซี่แนวนอนเป็นทรงตะแกรงและล้อทั้ง 4 ก็เล่นลายดูหรูหราขึ้น แถมสีสันของตัวรถก็ดูสวยงามพรีเมี่ยมตามสไตล์ Mazda ยุคใหม่ๆ  


       ช่วงแรกได้ลองขับ NEW MAZDA CX-8 เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 กับจำนวนผู้โดยสาร 5 ท่าน การออกตัวถือว่าไม่ “อืด” สามารถพุ่งตามรถคันหน้าได้ค่อนข้างทันใจแม้เหมือนต้องใช้รอบเครื่องยนต์มากหน่อยก็ตาม การทำงานของระบบเกียร์นุ่มนวลและต่อเนื่องไร้การกระตุกให้รู้สึกขัดใจผู้ขับ การบังคับควบคุมพวงมาลัยฉับไวและสามารถควบคุมได้ดังใจตามสไตล์ Mazda ส่วนน้ำหนักพวงมาลัยก็ถือว่ากำลังดีสะดวกมือผู้ขับทั้งหญิงและชาย  ช่วงล่างและระบบกันสะเมือนในช่วงความเร็วต่ำการทำงานเป็นไปอย่างนุ่มนวลทำให้ผู้โดยสารนั่งสบายดี แต่พอต้องใช้ความเร็วสูงขึ้นช้วงล่างด้านหน้ายังคงนุ่มนวลกำลังดี แต่ช่วงล่างด้านหลังกลับรู้สึกว่า “นิ่ม” ไปหน่อย เพราะหลายๆจังหวะบนถนนจะมีการดีดดิ้น จนผู้โดยสารตอนหลังเริ่มรู้สึกนั่งไม่ค่อยสบายเท่าไร ยิ่งช่วงที่รถขับอยู่ในโค้งยิ่งรู้สึกได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าลดความเร็วลงมาหน่อยแล้วสภาพถนนที่ราบเรียบด้านหลังอาการดีดดิ้นก็จะลดลงไปเยอะพอสมควร


       อัตราเร่งแซงเวลาขับเดินทางไกลสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 กับจำนวนผู้โดยสาร 5 ท่านในรถ ทำได้อยู่ในระดับ “ค่อนข้างดี” รอบที่ต้องใช้จะสูงนิดนึงมื่อถึงวลาต้องเค้นอัตราเร่ง ดังนั้นการเร่งแซงแบบคับขันอาจจะต้องเผื่อระยะและเน้นการอ่านเกมส์การจราจรในเวลานั้น

      แต่มันก็เป็นข้อด้อยเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีใหม่ที่ใส่เข้ามาอย่าง GVC Plus ที่ช่วยควบคุมตัวรถให้มีการขับขี่ที่แม่นยำและปลอดภัยเพิ่มขึ้น ตัวระบบควบคุมสมรรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (GVC) จะมีระบบควบคุมการเบรก ซึ่งมาสด้าได้พัฒนาขึ้นสำหรับยนตรกรรมเจเนอเรชั่นใหม่ โดยมีการศึกษาการเคลื่อนไหวของร่างกายของผู้โดยสาร และพบกว่าร่างกายเคลื่อนไหวน้อยที่สุดเมื่อแรง G มีการเคลื่อนที่แบบหมุน ซึ่งการเคลื่อนที่ลักษณะนี้จะทำให้ผู้โดยสารคาดการณ์ได้ง่ายและคงความสมดุลของร่างกายได้ง่ายกว่า นี่คือแนวทางการขับขี่ที่เป็นมิตรกับผู้โดยสารของมาสด้า ดังนั้นผู้ขับขี่จะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เมื่อมีการเปลี่ยนเลนอย่างกะทันหันแล้วรถที่มีอาการโคลงกลับมาสมดุลเช่นเดิม หรือช่วยหลีกเลี่ยงการชนเมื่อผู้ขับขี่เจอสถานการณ์สิ่งของตกลงบนถนนหรือมีสัตว์วิ่งตัดหน้ารถ


       อีกทั้งตัวระบบยังจะประมวลผลจากการบังคับพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ความเร็วของรถ รวมถึงน้ำหนัก ของเท้าที่กดลงบนแป้นคันเร่ง จากนั้นจะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ และถ่ายน้ำหนัก ที่เหมาะสมไปสู่แต่ละล้อ ทําให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ควบคุมได้แม่นยําในทุกสถานการณ์ โดยขณะเข้าโค้ง รถจะถ่ายน้ำหนักไปยังล้อหน้าซึ่งเป็นล้อที่ใช้ในการควบคุมรถ เพื่อให้ล้อหน้ายึดเกาะถนนมากขึ้น ส่วนขณะออกจากโค้ง รถจะถ่ายน้ำหนักไปยังล้อหลัง เพื่อให้รถวิ่งออกจากโค้งได้อย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งในการทดลองขับในครั้งนี้ก็ได้ใช้ระบบนี้กันอย่างเต็มที่เพราะต้องเจอสภาพเส้นทางมีโค้งคดเคี้ยวมากมาย เจ้า NEW MAZDA CX-8 ก็ยังสามารถขับผ่านไปได้อย่างมั่นคง เชื่องมือและปลอดภัย


       สรุปเจ้า NEW MAZDA CX-8 รุ่นปรับปรุงใหม่คันนี้ได้เทคโนโลยีใหม่ๆมาให้ใช้อย่างครบครันจนทำให้ทุกการเดินทางมั่นใจและปลอดภัย ที่นั่งสบายทุกตำแหน่ง สมรรถนะพอตัวสามารถใช้ขับเดินทางไกลได้อย่างสบาย ช่วงล่างถือว่าค่อนข้างดี ติดที่ด้านหลังดูนุ่มนวลไปหน่อย และสุดท้ายอัตราเสิ้นเปลืองระดับ 10 กม./ลิตร ต้นๆ ก็ถือว่า “พอรับได้” กับการใช้งานเดินทางไกลนะครับ

Tags :

view